ผู้เขียน หัวข้อ: หมอประจำบ้าน: หูดข้าวสุก (Molluscum contagiosum)  (อ่าน 13 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 689
    • ดูรายละเอียด
หมอประจำบ้าน: หูดข้าวสุก (Molluscum contagiosum)
« เมื่อ: 09 กันยายน 2025, 16:08:45 pm »
หมอประจำบ้าน: หูดข้าวสุก (Molluscum contagiosum)

หูดข้าวสุก เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายของผิวหนัง ขึ้นเป็นตุ่มกลมคล้ายโรคหูด แต่มีลักษณะผิวเรียบเป็นมัน ตรงกลางมีรอยบุ๋ม พบได้ในคนทุกอายุ แต่ส่วนใหญ่จะพบในเด็กที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (atopic dermatitis) ในผู้ใหญ่มักพบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น ผู้ที่เป็นเอดส์ ผู้ที่รับยากดภูมิคุ้มกัน)

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อหูดข้าวสุก ซึ่งเป็นไวรัสที่มีชื่อว่า เอ็มซีวี (MCV ซึ่งย่อมาจาก molluscum contagiosum virus) โรคนี้สามารถติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง หรือทางเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วย หรือโดยการใช้สระว่ายน้ำร่วมกับผู้ป่วย ระยะฟักตัว 2-7 สัปดาห์

อาการ

ขึ้นเป็นตุ่มตามผิวหนัง ไม่เจ็บไม่คัน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-6 มม. (บางครั้งอาจถึง 1-3 ซม.) มีลักษณะเป็นสีเหลืองหรือสีของผิวหนัง

มีลักษณะเฉพาะคือ ผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก และตรงกลางมีรอยบุ๋ม ซึ่งถ้ากดหรือบีบให้แตก หรือใช้เข็มสะกิดจะมีเนื้อหูดเละ ๆ สีขาวคล้ายข้าวสุกไหลออกมา ตุ่มมักขึ้นตามลำตัว แขนขา และบริเวณอวัยวะเพศ มีลักษณะขึ้นเป็นกลุ่ม และมักพบมากกว่า 1 แห่ง

ในผู้ป่วยเอดส์มักมีตุ่มเกิดขึ้นใหม่อยู่เรื่อย ๆ มักมีขนาดใหญ่จำนวนมาก และคงอยู่นานกระจายอยู่ทั่วไป ตามศีรษะ คอ หน้า และอวัยวะเพศ

ในคนปกติที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง หูดข้าวสุกมักจะหายได้เองภายใน 6-9 เดือนโดยไม่เป็นแผลเป็น ยกเว้นในรายที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ซึ่งจะมีอาการอักเสบ และเมื่อแตกจะกลายเป็นแผลเป็นได้

ภาวะแทรกซ้อน
ถ้าแกะเกาอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ถ้าขึ้นที่เปลือกตาอาจทำให้เยื่อตาขาวอักเสบ

การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยจากลักษณะของรอยโรคเป็นหลักที่พบขึ้นเป็นตุ่มผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก และตรงกลางมีรอยบุ๋ม
 หากไม่แน่ใจ จะขูดเอาเนื้อเยื่อไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ

การรักษาโดยแพทย์

ถ้าตุ่มขึ้นไม่มาก แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณที่เป็นหูดข้าวสุกด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ (เช่น โพวิโดนไอโอดีน) ใช้ยาชาทาเพื่อไม่ให้ปวด แล้วใช้ปากคีบบีบหรือใช้เครื่องมือขูด (curet) หรือใช้เข็มสะกิดแล้วบีบเอาน้ำหูดข้าวสุกออกมา แล้วทาด้วยซิลเวอร์ไนเทรต (silver nitrate) ฟีนอล (phenol)

         ถ้าไม่ได้ผล หรือขึ้นตุ่มจำนวนมาก แพทย์จะให้การรักษาด้วยเครื่องจี้ไฟฟ้าหรือแสงเลเซอร์จี้ด้วยไนโตรเจนเหลว หรือทาด้วยกรดไตรคลอโรอะซีติกชนิด 50-70% หรือกรดซาลิไซลิกชนิด 40%

ในรายที่ดื้อต่อการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว แพทย์จะใช้ครีมอิมิควิมด (imiquimod) ชนิด 5% ซึ่งเป็นยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทาวันละครั้งก่อนนอนเป็นเวลา 5 วัน/สัปดาห์ จนกระทั่งหาย (อาจใช้เวลานาน 9 เดือน) จะช่วยให้หูดยุบหายหมดได้ประมาณร้อยละ 80

         ในรายที่มีหูดข้าวสุกขึ้นกระจาย แพทย์จะให้กินไซเมทิดีนในขนาดสูง (30-40 มก./กก./วัน) ซึ่งมีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันนาน 2 เดือน จะช่วยให้หายได้ใน 4 เดือน

การดูแลตนเอง
หากสงสัย เช่น มีตุ่มขึ้นที่ผิวหนัง ตุ่มมีลักษณะผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก และตรงกลางมีรอยบุ๋ม ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคหูดข้าวสุก ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ลดการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น โดยใช้ผ้าปิดแผล ปิดคลุมรอยโรคไว้ งดเล่นน้ำในสระ งดการมีเพศสัมพันธ์ถ้ามีหูดข้าวสุกในบริเวณอวัยวะเพศ และหมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่บ่อย ๆ

ควรกลับไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    หูดข้าวสุกมีการติดเชื้อแบคทีเรียอักเสบเป็นหนอง
    มีหูดข้าวสุกเกิดขึ้นใหม่

การป้องกัน

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสถูกเนื้อหูดข้าวสุกของผู้อื่นและของตัวเอง
    หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของเครื่องใช้ (เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว รองเท้า ถุงเท้า) ร่วมกับคนที่เป็นหูดข้าวสุก
    หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่
    หมั่นรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย กินอาหารครบ 5 หมู่ที่สมสัดส่วน และพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

ข้อแนะนำ

1. ผู้ที่มีหูดข้าวสุกขึ้นกระจายจำนวนมาก หรือมีขนาดใหญ่ ควรส่งตรวจเลือดดูว่ามีการติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่

2. หูดข้าวสุกเมื่อรักษาหายแล้ว อาจเกิดขึ้นได้ใหม่ ควรหาทางป้องกันไม่ให้ติดเชื้อซ้ำอีก

 

ลงประกาศฟรี ติด google ลงโฆษณา ขายของ ฟรี โพสต์ฟรี ลงประกาศฟรี ขายฟรี ขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ประกาศฟรี ขายฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google