จัดฟันบางนา: ระวังไว้ “ฟันตาย” ภัยร้ายสุดอันตรายในช่องปากเชื่อว่าหลายๆท่านคงทราบต่างๆที่เป็นอันตรายต่อช่องปากกันมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่หากว่าพูดถึงเรื่อง “ฟันตาย” เชื่อว่าหลายๆท่านอาจจะทำหน้างง หรือสงสัยว่าโรคอะไร อาจจะไม่เคยคุ้นหู หรืออาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน ซึ่งหากพูดกันง่ายๆ ฟันตายก็คือ ฟันที่ไม่มีเส้นเลือดเข้ามาเลี้ยงในโพรงประสาท ทำให้เซลล์ต่างๆที่อยู่ในฟันตายลงไปด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นอันตรายอย่างมากเลยทีเดียว
ในวันนี้ทางด้าน Clinic ผู้เชี่ยวชาญเรื่องทันตกรรมมานานกว่า 15 ปี โดยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากความสามารถโดยเฉพาะทาง อยากจะขอพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับ โรคฟันตาย ให้มากขึ้น เพื่อให้ทราบถึงต้องเหตุและวิธีป้องกันกับโรคร้ายแรงนี้นี่เอง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
สาเหตุที่ทำให้เกิดฟันตาย ?
ก่อนอื่นเลยท่านผู้อ่านจะต้องทราบก่อนว่าองค์ประกอบสำคัญของฟันมีดังต่อไปนี้ เคลือบฟันจะอยู่ตำแหน่งนอกสุดที่คอยปกป้องฟันจากการผุหรือถูกกัดกินจากแบคทีเรียถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากๆ ต่อมาก็คือ เนื้อฟันโดยอยู่ในตำแหน่งที่ถัดเข้ามาจากเคลือบฟัน และโพรงประสาทฟัน ประกอบไปด้วยเส้นเลือด เส้นประสาท และเซลล์ต่างๆ ที่ช่วยหล่อเลี้ยงฟันให้แข็งแรง และเมื่อไหร่ที่เส้นเลือดไม่สามารถเข้าไปเลี้ยงฟันแต่ละซี่ได้เมื่อนั้นฟันก็จะตาย เนื่องจากเซลล์ต่างๆตายลงนั่นเอง หรือภาวะต่างๆที่ทำให้เชื้อโรคเข้าถึงโพรงประสาทฟันจนโพรงประสาทฟันติดเชื้ออักเสบและตายในที่สุด ซึ่งฟันตายนั้นเกิดได้จากหลายๆสาเหตุดังต่อไปนี้
– มีฟันผุ ฟันสึก ลึกลงไปจนถึงโพรงประสาท
– ฟันเกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรงส่งผลให้เส้นเลือดที่ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงฟันเกิดการฉีกขาด ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆได้นั่นเอง
– ฟันร้าว หรือฟันแตก ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากพฤติกรรมการชอบรับประทานของแข็งๆ รวมถึงคนที่ชอบนอนกัดฟันก็เป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้เกิดฟันตายได้ด้วยเช่นกัน
– เป็นโรคปริทันต์ หรือเหงือกอักเสบขั้นรุนแรง โดยไม่รีบทำการรักษาตั้งแต่ต้นๆ
วิธีสังเกตเบื้องต้นว่า ฟันตายหรือไม่ ?
– ฟันที่ตายจะเริ่มมีการเปลี่ยนสีจากขาวเป็นคล้ำมืดๆ
– มีตุ่มหนองที่เห็นได้ชัดตรงบริเวณเหงือกของฟันซี่ที่ตาย และเมื่อกดที่เหงือกบริเวณนั้นก็จะทำให้มีความรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณรากฟัน
– เริ่มมีอาการเจ็บ ในเวลาที่รับประทานอาหารหรือใช้ฟันในการบดเคี้ยว เนื่องจากว่าเกิดการอักเสบรอบๆปลายรากฟันปล่อยไว้ฟันจะตายในที่สุด
– มีอาการเสียวฟันอย่างมากเมื่อถูกกระตุ้น เช่น เมื่อรับประทานน้ำร้อน หรือน้ำเย็น แต่อยู่ๆอาการเหล่านั้นกลับหายไปและไม่รู้สึกอะไร นั่นคืออาการหลักของฟันตาย
วิธีการรักษาฟันตาย ?
โดยส่วนใหญ่แล้วทันตแพทย์จะวินิจฉัย ซักประวัติ และจะแนะนำการรักษาอยู่ 2 วิธีที่ดีที่สุด คือ
– รักษารากฟัน โดยอาจจะใช้ระยะเวลานานนิดหน่อย แต่ท่านอาจจะไม่ต้องสูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติไป
– ถอนฟัน วิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีสุดท้าย โดยหากทันตแพทย์เห็นว่าไม่สามารถทำการรักษารากฟันได้แล้ว หรือเป็นความประสงค์ของผู้ป่วยที่ต้องการจะถอนทิ้งไปเลยก็ได้
หากไม่ได้รับการรักษาจะเกิดอะไรขึ้น ?
– ฟันตายที่เกิดจากฟันผุ หากไม่ได้ถูกรับการรักษา ปล่อยทิ้งไว้ ฟันก็จะผุลงเรื่อยๆ
– หากว่าปล่อยทิ้งไว้ ก็จะเริ่มมีอาการติดเชื้อ ปวดเจ็บบริเวณฟันตาย และเริ่มมีอาการบวมตามมา
– เกิดการละลายของปลายรากฟัน ซึ่งอันตรายมากๆ
วิธีการป้องกันการเกิดฟันตาย ทำอย่างไร ?
อย่าที่บอกตั้งแต่ต้นว่า ฟันตาย ถือเป็นภัยอันตรายอย่างหนึ่งในช่องปากที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งวิธีป้องกันนั้นก็ไม่ยากอะไร ไม่ต่างจากการดูแลรักษาความสะอาดในช่องปากทั่วไป แต่อย่างน้อยป้องกันไว้ดีกว่ามาเสียใจภายหลัง ซึ่งวิธีป้องกันการเกิดฟันตายมีดังต่อไปนี้
– จำเป็นอย่างมากและหลายๆคนละเลย นั่นก็คือการตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน
– พยายามแปรงฟันให้ทั่วและสะอาดอย่างถูกวิธี และใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วยเพื่อขจัดเศษคราบอาหาร
– หลีกเลี่ยงการรับประทานของแข็ง เพื่อลดโอกาสในการเกิดฟันร้าวฟันแตก
– หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่เป็นกรด เช่น อาหารรสเปรี้ยว น้ำอัดลม เป็นต้น
เพียงเท่านี้ท่านก็มีโอกาสในการลดความเสี่ยงการเกิดฟันตายได้แล้ว
