ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทสินค้าฟรี
ประกาศขายฟรี => สินค้า บริการอื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ 03 กรกฎาคม 2025, 16:34:30 pm
-
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคไตเรื้อรัง (https://doctorathome.com/disease-conditions/298)
โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease - CKD) เป็นภาวะที่ไตถูกทำลายและไม่สามารถทำงานได้ตามปกติอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน (มากกว่า 3 เดือน) ซึ่งนำไปสู่การสะสมของของเสียในร่างกาย และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่ทำให้เกิดโรคไตเรื้อรัง ทั้งที่สามารถควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ ดังนี้ค่ะ:
ปัจจัยเสี่ยงหลักและสาเหตุสำคัญ
โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus):
เป็นสาเหตุอันดับ 1 ของโรคไตเรื้อรัง โดยเฉพาะในผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดีเป็นเวลานาน น้ำตาลในเลือดที่สูงจะทำลายหลอดเลือดเล็กๆ ในไตที่ทำหน้าที่กรองของเสีย ทำให้ไตเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ
โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension):
เป็นสาเหตุสำคัญอันดับ 2 ความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้เป็นเวลานาน จะทำให้หลอดเลือดในไตแข็งตัวและเสียหาย ส่งผลให้การทำงานของไตลดลง
โรคไตอักเสบชนิดต่างๆ (Glomerulonephritis / Nephritis):
เป็นการอักเสบของหน่วยไตที่ทำหน้าที่กรองเลือด (Glomeruli) ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น
โรคไตอักเสบจากการติดเชื้อ: เช่น หลังการติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส
โรคไตอักเสบจากภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune diseases): เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง (Systemic Lupus Erythematosus - SLE หรือโรคพุ่มพวง), โรคหลอดเลือดอักเสบ (Vasculitis)
โรคไตอักเสบจากสาเหตุอื่นๆ: เช่น IgA nephropathy, Focal Segmental Glomerulosclerosis (FSGS)
ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ
อายุที่มากขึ้น:
โดยทั่วไป ความสามารถในการทำงานของไตจะลดลงตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
โรคทางพันธุกรรม:
โรคถุงน้ำในไต (Polycystic Kidney Disease - PKD): เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้เกิดถุงน้ำจำนวนมากในไต ทำให้ไตทำงานผิดปกติและเสื่อมสภาพลง
ความผิดปกติของไตแต่กำเนิด หรือภาวะไตไม่สมบูรณ์ตั้งแต่แรกเกิด
การอุดกั้นทางเดินปัสสาวะเรื้อรัง:
นิ่วในไตหรือท่อไต: หากนิ่วอุดตันทางเดินปัสสาวะเป็นเวลานาน ทำให้ปัสสาวะคั่งค้างและสร้างแรงดันย้อนกลับไปที่ไต
ต่อมลูกหมากโตในเพศชาย: ทำให้ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะค้างในกระเพาะปัสสาวะ และส่งผลกระทบต่อไตได้
ภาวะปัสสาวะไหลย้อนกลับ (Vesicoureteral Reflux - VUR): พบบ่อยในเด็ก ทำให้ปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะไหลย้อนขึ้นไปที่ไต
การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะซ้ำๆ หรือรุนแรง (Recurrent UTIs / Pyelonephritis):
โดยเฉพาะการติดเชื้อที่ลุกลามไปถึงกรวยไตและเนื้อไต (กรวยไตอักเสบ) หากเป็นซ้ำๆ หรือเป็นเรื้อรังอาจทำให้เนื้อไตเสียหายได้
การใช้ยาบางชนิดอย่างไม่เหมาะสมหรือต่อเนื่องเป็นเวลานาน:
ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs): เช่น Ibuprofen, Naproxen, Diclofenac หากใช้ต่อเนื่องเป็นประจำ หรือใช้ในปริมาณสูง
ยาปฏิชีวนะบางชนิด: โดยเฉพาะกลุ่ม Aminoglycosides หากใช้ไม่ระมัดระวัง
ยาชุด ยาสมุนไพร ยาลูกกลอน ยาแผนโบราณ: ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้รับการรับรอง หรือมีส่วนผสมของสารเคมี โลหะหนัก (เช่น ปรอท ตะกั่ว) หรือยาสเตียรอยด์
อาหารเสริมบางชนิด: หากมีส่วนประกอบที่ส่งผลเสียต่อไต หรือรับประทานเกินขนาด
โรคอ้วน (Obesity):
ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคไต นอกจากนี้ยังอาจทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้นในการกรองเลือด
การสูบบุหรี่:
การสูบบุหรี่ทำลายหลอดเลือดทั่วร่างกาย รวมถึงหลอดเลือดในไต ทำให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงไตลดลง และเร่งการเสื่อมของไต
พฤติกรรมการรับประทานอาหาร:
การรับประทานอาหารรสเค็มจัด: ทำให้ไตทำงานหนักในการขับโซเดียมส่วนเกิน และอาจนำไปสู่ความดันโลหิตสูง
การรับประทานอาหารโปรตีนสูงมากเกินไป: ในระยะยาวอาจเพิ่มภาระให้กับไต
การดื่มน้ำน้อย: อาจทำให้ไตทำงานหนักขึ้นในการขับของเสีย และเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไต
โรคเกาต์ (Gout) หรือมีระดับกรดยูริกในเลือดสูง:
กรดยูริกที่สูงเกินไปสามารถตกผลึกในไตและทำให้เกิดความเสียหายได้
การทราบถึงปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและชะลอการเกิดโรคไตเรื้อรังได้ โดยการควบคุมโรคประจำตัวให้ดี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และเข้ารับการตรวจสุขภาพไตอย่างสม่ำเสมอค่ะ